อันตราย !!! ฉีดยาคุมให้สัตว์เลี้ยง
UPDATE!!!เจ้าของและสัตวแพทย์รุ่นใหม่
เขาไม่ฉีดยาคุมกันแล้วนะขอบอก...
- รู้ป่ะค่ะว่า “กรมปศุสัตว์ยกเลิกการฉีดยาคุมกำเนิดหมาแมว” แล้วเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมดลูกอักเสบ
ให้เน้นผ่าตัดทำหมันแทน รวมทั้งขอความร่วมมือสถานพยาบาลสัตว์ให้เลิกฉีดยาคุมด้วย ตั้งแต่วันที่30
ม.ค.60 แล้วค่ะ เดี๋ยววันนี้เราจะมานั่งคุยสาเหตุที่ต้องยกเลิกกันค่ะ
ค่านิยมและความเข้าใจผิดๆของการฉีดยาคุมกำเนิดในสุนัขและแมว
1.
ทำได้ง่ายรวดเร็ว ใครๆก็ทำได้ เจ้าของส่วนใหญ่ก็ซื้อมาฉีดเองเลยจร้า
2.
เลือกฉีดยาคุม แทนทำหมัน เพราะรักลูกมาก(สุนัขและแมว)
กลัวเจ็บเวลาผ่าตัด (แต่ไม่กลัวเวลาเป็นมดลูกอักเสบ บอกเลยแผลใหญ่ยาวกว่าเยอะ
บางตัวหนองแตก ล้างท้องด้วย เอ้า!ไปกันใหญ่เลย)
3.
กลัวสุนัขและแมวตาย/ไม่ฟื้นเวลาทำหมัน
(ก็ตรวจเลือด/เช็คสุขภาพ/หาสถานพยาลที่คุณไว้วางใจทำซิค่ะ)
4.
มีหลายคนบอกว่า หลังทำหมันไปหมาแมวจะอ้วน หุ่นจะเสีย ไม่เป็นปัญหาค่ะ
มีอาหารช่วยคุมน้ำหนักหลังทำหมันค่ะ หลายยี่ห้อมาก ปัญหานี้ตกไป
5.
ค่าผ่าตัดทำหมันแพง ฉีดยาคุมประหยัดกว่าเยอะ เข็มละ30-50 บาทเอง อืม.....กาๆๆๆ.....(เคยได้ยินไหมค่ะ
ถูกระยะสั้น แพงระยะยาว เป็นมดลูกอักเสบ/ลูกตายในท้อง ค่าผ่าตัดแพงกว่าเยอะค่ะ
หรือไม่ก็ติดตามข่าวสารของกรมปศุสัตว์ ที่ออกหน่อยทำหมันฟรี
(ซึ่งอันนี้ต้องไปหาข้อมูลรายละเอียดเองนะ)
6.
รู้ป่ะ? ตอนนี้เค้ามีบริการฉีดยาคุมฯถึงที่นะ หมอประเป๋าน่ะรู้จักอ้ะป่าว?
(ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่ใช่สัตวแพทย์แน่นอนค่ะ ส่วนใหญ่บางคนจะเป็นผู้ช่วยพยาบาลของคนหรือคนที่เคยทำงานในคลินิกสัตวแพทย์
แล้วเรียนรู้แบบครูพักรักจำ แอบเอายาไปฉีดเอง เพื่อหารายได้พิเศษ ซึ่งหมอจะบอกว่า
บุคคลเหล่านี้กระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งดำเนินคดีที่กรมปศุสัตว์ได้เลยค่ะ
7.
ยาคุมกำเนิดฉีดเมื่อไรก็ได้ ผิดค่ะ เจ้าของบางคนไม่อยากให้ท้อง
พอเห็นสุนัขเป็นสัดหรือมีเลือดออกมาจากอวัยวะเพศ ก็รีบฉีดยาคุมเลยค่ะ แน่นอนค่ะ
ไม่ทันค่ะ ถ้าถูกผสมก็ท้องอยู่ดีค่ะ
8.
ฉีดๆไปเถอะยาคุมฯ ฉีดให้ตรงวันเป๊ะๆ ไม่ท้องก็พอแระ เป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ
เพราะการฉีดยาคุมบ่อยครั้ง ทำให้ผนังมดลูกเปื่อย/ติดเชื้อง่าย ปล่อยทิ้งไว้นานๆ
ก็กลายเป็นมดลูกอักเสบ ต้องผ่าตัดอยู่ดี
9.
อ้าวฉีดยาคุมกำเนิดไปแล้ว ทำไมยังท้องอีก? งง!!! ยาคุมฯเสื่อมเหรอ? เป็นไปได้ค่ะ
เพราะคุณฉีดเป็นช่วงวงรอบการเป็นสัดไง
-
อุ้ยๆๆ ถ้าเผลอฉีดยาคุมฯไปไม่แน่ใจว่าท้องมั้ย แต่สงสัยน่าจะท้อง เพราะช่วงนี้กินเก่งเหลือเกินและตัวใหญ่ด้วย
จะทำยังไงดีค่ะ
คำตอบคือ นำสุนัขไปอัลตร้าซาวน์เพื่อดูว่าท้องจริงมั้ย ถ้าท้อง
คุณหมอจะได้นัดวันผาตัดคลอดให้ค่ะ เพราะเวลาฉีดยาคุมกำเนิดไปแล้ว
ร่างกายสัตว์จะไม่มีฮอร์โมนมากพอทำให้เกิดการคลอด ปากมดลูกก็ไม่เปิด มดลูกก็ไม่บีบตัวผลักลูกออกมา
ทำให้เกิดการตั้งท้องที่ยาวนานขึ้น ลูกก็จะตายอยู่ในมดลูก ปล่อยไว้นาน
แม่ก็อาจติดเชื้อในกระแสเลือด ตายได้
-เมื่อไรจะฉีดยาคุมกำเนิดได้
(หมอไม่สนับสนุนอย่างแรง)
1.
ฉีดในช่วงไม่เป็นสัดหรือฉีดก่อนเป็นสัดระยะแรกหรือฉีดหลังเป็นสัดไปแล้ว
3-6 เดือน
2.
ก่อนฉีดต้องผ่านการประเมินจากสัตวแพทย์ทุกครั้ง
3.
ห้ามฉีดในสัตว์ที่ตั้งท้อง หรือโดนผสมมา
4.
ห้ามใช้รักษาท้องเทียม
5.
ห้ามฉีดในสัตว์ที่เป็นโรคเบาหวานอยู่
ก็จะทำให้อาการป่วยแย่ลงเข้าไปอี๊ก
6.
ห้ามใช้ในสุนัขที่มีการเกิดเลือดออกจากมดลูก
7.
อย่าฉีดรูปแบบที่ออกฤทธิ์นานในแมวที่เป็นสัดครั้งแรก
เพราะเต้านมจะขยายใหญ่โตยาวนานมาก
โอ้ยๆๆๆ เห็นมั้ยกว่าจะฉีดยาคุมฯได้สักเข็ม
ต้องดูโน่นนี่นั่น เยอะแย่ไปหมด ยุ่งยาก รณรงค์ให้ทำหมันดีกว่าค่ะ
-สุดท้ายแระ
เน้นสวยๆกันอีกรอบถึงข้อเสียของการฉีดยาคุมกำเนิด
1.
ผนังมดลูกหนาตัวเป็นถุงน้ำ ซึ่งบอกเลยหมาแมวเจ็บปวดมาก
2.
เซลล์เต้านมเจริญผิดปกติ จนอาจกลายเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งเต้านมได้
3.
ตัวยาคุมฯเอง เหนี่ยวนำให้เกิดเบาหวานได้
4.
โน้มนำเกิดมดลูกอักเสบเป็นหนองได้
5.
หิวตลอดเวลา กินน้ำเยอะ น้ำหนักขึ้น
6.
ฉีดยาคุมฯไปตอนที่โดนผสมไปแล้ว สามารถท้องได้ และก็คลอดไม่ออกค่ะ
พอกันทียาคุม(กำเนิด)มาทำหมันกันดีกว่า/
บอกลายาคุม(กำเนิด)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น